รับเงินทันที 5,000 บาท
ล่าสุดจากการอนุมัติช่วยเหลือ สำหรับประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัดในพื้นที่ ล่าสุดหลายๆคนเริ่มลงทะเบียนกันแล้ว
จากมติคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติมาตรการเยียวย าโควิด เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ให้กับผู้ประกันตนม.33 และ นายจ้าง
ที่ได้รับผลกระทบ ในพื้นที่ควบคุม 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ภายใต้กรอบวงเงิน 4.2 หมื่นล้าน
เงินเยียวย าล่าสุด ที่สำนักงานประกันสังคมจัดสรรให้กับผู้ได้รับผลกระทบมีดังนี้
10 จังหวัดพื้นที่ควบคุมได้แก่
กรุงเทพมหานคร
นครปฐม
นนทบุรี
ปทุมธานี
สมุทรปราการ
สมุทรสาคร
นราธิวาส
ปัตตานี
ยะลา
สงขลา
ระยะเวลาเยียวย า
เป็นเวลา 1 เดือน
9 กิจการที่ได้รับสิทธิ
1.ก่อสร้าง
2.ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3.ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
4.กิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ
5.ขายส่งขายปลีกและซ่อมยานยนต์
6.ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุนกิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์
8.กิจกรรมทางวิชาการ
9.ข้อมูลข่าวสารและสื่อสาร
ผู้ประกันตนม.33
รับเงิน 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) รัฐจ่ายสมทบอีก 2,500 บาทต่อคน รวมเป็น 10,000 บาทต่อคน
ม. 39 , 40 รับเงิน 5,000 บาทต่อคน
อาชีพอิสระ (freelance) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายใน ก.ค. นี้ รับเงิน 5,000 บาท
นายจ้าง
นายจ้าง ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน
ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 ภายในเดือน ก.ค. นี้ รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน
ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง และไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง”
1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
2.ร้าน OTOP
3.ร้านค้าทั่วไป
4.ร้านค้าบริการ
5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท
รีบขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 30 ก.ค.
สำนักงานประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างแต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม
ขอให้มาขึ้นทะเบียนประกันสังคมในระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.- 30 ก.ค.64 โดยสามารถขึ้นทะเบียนผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
www.sso.go.th ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะได้รับเงินเยียวยา โดยลูกจ้างสัญชาติไทยรับเงินรายละ 2,000 บาท
นายจ้างรับ 3,000 บาทลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง โดยกระทรวงการคลังจะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน
ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นไป
ที่มา: สำนักงานประกันสังคม