อนุมัติแล้ว คนละ 5,000 บาท
เรียกได้ว่า เป็นข่าวที่หลายๆคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในรอบใหม่นี้
โดยรัฐประกาศช่วยลูกจ้าง แล้วโดย เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33
+
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
(จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)
กรอบวงเงินจำนวน 2,519.38 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้แก่ นายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ใน 4 ประเภทกิจการ ได้แก่
กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และกิจการกิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ
นายอนุชากล่าวว่า หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้ 1.นายจ้างที่อยู่ในฐานข้อมูลประกันสังคม
ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2564 หรือนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน-30 กรกฎาคม 2564 จำนวน 41,940 ราย
โดยจะได้รับเงินเยียวยาในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง และ 2.ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 663,916
ราย จะได้รับเงินเยียวยาในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ทั้งนี้กรณีที่ผู้ประกันตนทำงานกับนายจ้างมากกว่า 1 ราย ให้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาเพียงครั้งเดียวในอัตรา 2,000 บาท
สำหรับวิธีการจ่ายเงินเยียวยานั้น กรณีบุคคลธรรมดาและผู้ประกันตนมาตรา 33 จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay)
เฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน กรณีนายจ้างที่เป็นนิติบุคคล สำนักงานประกันสังคมจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้ง
หรือตามวิธีการอื่น ๆ ที่กระทรวงแรงงานกำหนด โดยเริ่มโอนเงินเยียวยาครั้งแรกภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 และโอนเงินซ้ำทุกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
นายอนุชากล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ยังมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม เร่งลงทะเบียนนายจ้าง
และให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานตรวจสอบนิติสัมพันธ์ความเป็นนายจ้างลูกจ้างของนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน-30 กรกฎาคม 2564