เราชนะเคาะเงินเพิ่ม ได้เท่าไหร่วันไหนเช็กได้ที่นี่

5 พ.ค. 2564 เห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วง ในระยะเร่งด่วน โครงการ ​เราชนะ จำนวนกลุ่มเป้าหมายประมาณ 32.9 ล้านคน เพิ่มอีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้กรอบวงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท โดยให้การใช้จ่ายสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.64

เบื้องต้นคาดว่าการรับเงินเราชนะรอบนี้ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากเป็นการขย ายวงเงินให้กับผู้ที่เคยได้รับสิทธิรายเดิม ที่เคยได้รับเงิน 7,000 บาทไปแล้ว 32.8 ล้านคน ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 21 เม.ย. 64

ทั้งนี้ รายละเอียดการลงทะเบียนรับเงินเราชนะ รอบใหม่ ยังไม่เคาะวันและเวลาที่แน่นนอนซึ่งต้องรอติดตามต่อไป

ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด แต่ยังตกหล่น หรือไม่ได้รับสิทธิเราชนะจากรอบที่แล้ว ในบางกรณี อาจจะมีการเปิดให้ลงทะเบียน คล้ายกับการลงทะเบียนเราชนะรอบแรก มีเงื่อนไขผู้ที่มีคุณสมบัติ และขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้


คุณสมบัติ เราชนะ
1. เป็นบุคคลที่มี สัญชาติไทย อายุ 18 ปี ณ วันที่ ครม. เห็นชอบโครงการ

2. ไม่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33

3. ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทน จากหน่วยงานของรัฐโดยตรง

4. ไม่เป็นข้าราชการการเมืองตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535

5. ไม่เป็นผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ

6. ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ตามปีภาษี 2563

7. มีเงินฝากรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

ขั้นตอนลงทะเบียน
สำหรับขั้นตอนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิรับ เงินเยียวย า มาตรการเราชนะ ครั้งที่ผ่าน

1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ คลิกที่นี่

2. กดคำว่า ลงทะเบียนใหม่ ปุ่มสีแดง จากนั้นกรอกข้อมูล

ชื่อ-นามสกุล
หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน
รหัสหลังบัตรประจําตัวประชาชน
วันเดือนปีเกิด
เบอร์โทรศัพท์

3. ใส่รหัส OTP ซึ่งจะส่งจากเบอร์โทรศัพท์ที่ใส่ในระบบ

4. ระบบจะขึ้นข้อความว่า ระบบได้รับข้อมูลของท่านแล้ว โดยจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของท่านตามเงื่อนไขโครงการต่อไป ถือว่าลงทะเบียนเรียบร้อย

จากนั้น ระบบจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ก่อนรับเงินในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง เพื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไขต่อไป

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดดังกล่าว จะต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง